หมวดหมู่: งานสืบสวน68

ตร.สืบปทุมวัน จับผู้ต้องหา ข้อหา “จำหน่ายยาเสพติด”

วัน/เดือน/ปี ที่จับกุม 26 มกราคม 2568 เวลา 19.40 น.

ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน

ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน,พ.ต.ท.ศตวรรธน์ เกียรติสกุลทอง รองผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.ฯ, พ.ต.ต.พิมาล ไพรวิจารณ์ สว.สส.ฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน จับกุมผู้ต้องหา

ได้จับกุม 1.นายเชาวลิตร์ ใจสุทธิ อายุ 42 ปี

ข้อหา

“จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์)โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”

พร้อมด้วยของกลาง

1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมฟาตามีนหรือยาไอซ์) ลักษณะเป็นเกล็ด สีขาวขุ่น บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกแบบเปิดปิด น้ำหนักรวมถุง 1.1 กรัม ได้มาจากการล่อซื้อยาเสพติด

2.เงินที่ใช้ในการล่อซื้อ ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และธนบัตรฉบับรัฐบาลไทย 100 บาท จำนวน 3 ฉบับ รวมจำนวน 800 บาท ตรวจค้นได้จากภายในกระเป๋าผ้าสีดำ ผู้ถูกจับถืออยู่ในมือข้างขวาในขณะทำการตรวจค้น(ส่งเฉพาะสำเนาธนบัตร ฉบับจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเก็บรักษาไว้)

3.ประจำวันที่ลงเพื่อการล่อซื้อ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ข้อ 1 ลงวันที่ 26 มกราคม 2567 เวลา 19.25 น. พร้อมสำเนาธนบัตรธนบัตรรัฐบาลไทยฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และธนบัตรฉบับรัฐบาลไทย 100 บาท จำนวน 3 ฉบับ

4.กระเป๋าผ้าสีดำ ซึ่งผู้ถูกจับถืออยู่ในมือข้างขวาขณะจับกุม

สถานที่จับกุม บริเวณข้างคลองผดุงกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.

พฤติการณ์

ก่อนจับกุมได้รับแจ้งสายลับ (ขอปกปิดนาม) ว่านายเอก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) รูปร่างผอม ผิวดำ-แดง มีรอยสักบริเวณแขนและขาทั้ง 2 ข้าง สูงประมาณ 160 เซนติเมตร มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติด อยู่แถวริมคลองผดุงกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ จึงได้เดินทางมาพบ ร.ต.ท.วีระเดช อาศัยป่า รอง สว.(สส.)สน.ปทุมวันฯ แจ้งว่าตนเองสามารถล่อซื้อยาเสพติดประเภทยาไอซ์ได้ จึงได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อวางแผนเข้าทำการจับกุมโดยการล่อซื้อ จากนั้นจึงได้นำธนบัตรฉบับรัฐบาลไทย ฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และธนบัตรฉบับรัฐบาลไทย 100 บาท จำนวน 3 ฉบับ รวมจำนวน 800 บาท มาลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ตามบันทึกประจำวัน ข้อที่ 1 เวลา 19.25 น. วันที่ 26 มกราคม 2569 เพื่อนำไปใช้ในการล่อซื้อยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง ในราคา 800 บาทโดยให้ สายลับ(ขอปกปิดนาม) ไปทำการซื้อขายบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดย ร.ต.ท.วีระเดชฯได้ดำเนินการตรวจค้นตัวของสายลับ(ขอปกปิดนาม)ก่อนแล้ว ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด ร.ต.ท.วีระเดชฯ จึงมอบ ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 100 บาท จำนวน 3 ฉบับ ซึ่งได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้วนั้น ให้กับสายลับ(ขอปกปิดนาม) ไปทำการล่อซื้อ ซึ่ง ร.ต.ท.วีระเดชฯ ได้แจ้งแก่สายลับ(ขอปกปิดนาม) ว่าหากทำการซื้อขายยาเสพติดเสร็จสิ้นแล้ว ให้สายลับ(ขอปกปิดนาม)ออกมาพร้อมยาเสพติด คือ ยาไอซ์ ที่ได้ล่อซื้อไว้แล้วมาหา ร.ต.ท.วีระเดชฯ ตามจุดที่ได้นัดหมายบริเวณหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อส่งมอบยาเสพติด คือ ยาไอซ์ ที่ได้ทำการล่อซื้อแก่ ร.ต.ท.วีระเดชฯ เพื่อยึดไว้เป็นของกลางในคดี และเข้าไปทำการจับกุม นายเอกตามแผนการที่ได้วางแผนไว้ จากนั้นเวลาประมาณ 19.30 น. สายลับ(ขอปกปิดนาม) และ ร.ต.ท.วีระเดชฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้เดินทางไปถึงยังบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบ และในที่เกิดเหตุมีแสงไฟส่องสว่าง ในระยะ 30 เมตร สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากนั้นสายลับ(ขอปกปิดนาม)ได้เดินไปซื้อล่อยาเสพติดที่นายเอก บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษมและได้ทำการส่งสัญญาณให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่าได้ทำการล่อซื้อยาเสพติดเสร็จสิ้นแล้ว โดยยาเสพติดที่ได้ทำการล่อซื้อมี ยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง ซึ่งล่อซื้อในราคา 800 บาท จากนั้น เวลาประมาณ 19.40 น. ร.ต.ท.วีระเดชฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้เข้าทำการจับกุมตัวบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พบนายเอก ซึ่งมีรูปพรรณตามที่สายลับ(ขอปิดนาม)แจ้ง ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว ร.ต.ท.วีระเดชฯ จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พร้อมทั้งแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้แก่นายเอก ทราบและดู จนเป็นที่พอใจ จากนั้น ร.ต.ท.วีระเดชฯ ได้ขอตรวจค้น โดยก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะทำการค้นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ จนนายเอกเป็นที่พอใจแล้ว จึงทำการตรวจค้น โดยในขณะตรวจค้นมีแสงไฟส่องสว่างมองเห็นอย่างชัดเจน ผลการตรวจค้นพบธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับ 100 บาท จำนวน 3 ฉบับ อยู่ภายในกระเป๋าผ้าสีดำ ซึ่งนายเอกถืออยู่ในมือข้างขวาขณะทำการตรวจค้น จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการขายยาเสพติด “จริง” จากนั้น ร.ต.ท.วีระเดชฯ ได้นำสำเนาภาพถ่ายธนบัตรที่ได้ลงประจำวันไว้มาตรวจสอบต่อหน้าผู้ถูกจับพบว่ามีหมายเลขตรงกับธนบัตรที่ยึดได้จากผู้ถูกจับจริง จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์)โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”จาการการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและให้การว่าตนได้ไปซื้อยาไอซ์ จากนายเฉิน หรือ การัน นามสกุลไม่ชัดเจน อายุประมาณ 28 ปี โดยข้าฯได้ไปซื้อที่ห้องของนายเฉินที่ซอยจรัญ 65 ในราคา 300 บาท แล้วมาจำหน่ายให้แก่ลูกค้า ในราคา 800 บาท พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมาย ให้ นายเชาวลิตร์ หรือเอก ใจสุทธิ(ทราบชื่อสกุลจริงภายหลัง) ผู้ถูกจับกุม ทราบและเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อไป

ผู้ถูกจับได้รับทราบข้อกล่าวหาพร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายครบถ้วนแล้ว

บันทึกมาตรา 22 และ 23 ลงในระบบออนไลน์เรียบร้อย

สืบปทุมวันบุกรวบบังรอน หัวจ่ายรองเมือง พร้อมของกลางหลายรายการ

วัน/เดือน/ปี ที่จับกุม 2 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 22.00 น.

ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน

ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน,พ.ต.ท.ศตวรรธ์ เกียรติสกุลทอง รอง ผกก.สส.ฯ,พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.ฯ,พ.ต.ต.พิมาล ไพรวิจารณ์ สว.สส.ฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน จับกุมผู้ต้องหา

ได้จับกุม นาย ยอดชาย หรือ บังรอน สุเสวี อายุ 43 ปี สัญชาติ ไทย

ข้อหา

“มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและไอซ์)ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า,การก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเป็นการกระทำโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ

มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ,พกพาอาวุธปืนไปไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พร้อมด้วยของกลาง

1.ยาไอซ์ จำนวน 70.11 กรัม

2.ยาบ้า จำนวน 79 เม็ด

3.อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 มม. สีเทา จำนวน 1 กระบอก

4.เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 มม. จำนวน 6 นัด

สถานที่จับกุม ใต้อาคารรองเมืองอพาร์ทเมนท์ เลขที่ 69 ซอยรองเมือง 1 ตำบลรองเมือง อำเภอเขตปทุมวัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปิดนาม) ว่ามีชายไทยทราบชื่อเล่นว่า บังรอน อายุประมาณ 40-45 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ตัวใหญ่ ทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของอาคารรองเมืองอพาร์ทเมนท์ ซอยรองเมือง1 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ซึ่งสายลับสามารถติดต่อล่อซื้อยาเสพติดได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถจับกุมตัวไว้ได้ สอบถามผู้ถูกจับให้การรับสารภาพว่า ได้จำหน่ายยาเสพติดให้กับสายลับจริง และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนจริงมีไว้เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าที่มาติดต่อซื้อ ส่วนอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ตรวจพบ มีไว้เพื่อป้องกันตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ

ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

บันทึกมาตรา 22 และ 23 ส่งในระบบเรียบร้อย

สืบปทุมวัน จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด

วัน/เดือน/ปี ที่จับกุม 21 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 21.16 น.

ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน รายงานผลการจับกุม

ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน,พ.ต.ท.ศตวรรธ์ เกียรติสกุลทอง รอง ผกก.สส.ฯ,พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.ฯ,พ.ต.ต.พิมาล ไพรวิจารณ์ สว.สส.ฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน จับกุมผู้ต้องหา

ได้จับกุม นายณัฐวุฒิ หรือ ดิว บุญทำนุก อายุ 27 ปี สัญชาติ ไทย ที่อยู่ 8 หมู่ที่ 1 ตำบลจังหาร อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด

ข้อหา

“เสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า)”

พร้อมด้วยของกลาง

1.รายงานผลการตรวจปัสสาวะของรพ.กลาง จำนวน 1 แผ่น

สถานที่จับกุม ห้องน้ำชั้น 2 รองเมืองอพาร์ทเมนท์ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

บันทึกมาตรา 22 และ 23 ส่งในระบบเรียบร้อย

นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ไม่ถึง 6 ชั่วโมงได้คืน สืบปทุมวัน ติดตามทรัพย์สินส่งคืนผู้เสียหาย

วันที่ 18 พ.ย.67 เวลา 14.33 น.

ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน

ติดตามทรัพย์สินส่งคืนผู้เสียหาย (ใช้เวลาไม่เกิน 6 ชม.)

ทรัพย์สิน : นาฬิกา ยี่ห้อ ROKEX รุ่น 177200 ราคา 259,000 บาท

รายละเอียดโดยย่อ ด้วยเมื่อวันที่ 18 พ.ย.67 ได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ว่าก่อนเกิดเหตุได้ประกาศขายนาฬิกา ยี่ห้อ ROKEX รุ่น 177200 ราคา 259,000 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์ ต่อมาได้มีผู้สนใจติดต่อซื้อนาฬิกาเรือนดังกล่าวจากผู้เสียหาย และตกลงซื้อขายกันเรียบร้อย โดยผู้เสียหายนำสินค้า นาฬิกา(ROKEX รุ่น 177200) ไปส่งให้กับบริษัทขนส่งเอกชน หลังจากส่งสินค้าพบว่าผู้ซื้อรายดังกล่าวได้ให้ไรเดอร์มาติดต่อขอยกเลิกรายการส่งและนำพัสดุไปส่งมอบให้กับผู้ซื้อด้วยตนเอง เวลาเดียวกันนั้น ผู้เสียหายตรวจสอบพบว่าไม่มีเงินค่าราคาสินค้าจากผู้ซื้อโอนเข้าบัญชี จึงเชื่อได้ว่าผู้ซื้อคนดังกล่าวเป็นมิจฉาชีพมาหลอกลวงตน จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ตาม ปจว. ลำดับที่ 7 ลงวันที่ 18 พ.ย.67 เวลา 14.33 น.

หลังจากได้รับแจ้ง ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่จุดเกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิด ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. ได้รับแจ้งจากบริษัทขนส่งฯ ว่ามีไรเดอร์นำพัสดุของผู้เสียหายมาคืน จากการสอบถามไรเดอร์ให้ข้อมูลว่าผู้จ้างหรือมิจฉาชีพให้ตนขับขี่รถมาตามเส้นทาง จนถึง จ.สมุทรสาคร ซึ่งไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอน จนพบพิรุธเกรงว่าพัสดุดังกล่าวภายในเป็นสิ่งของผิดฎหมาย และไม่สามารถติดต่อผู้จ้างได้ จึงได้นำพัสดุกลับมาส่งคืน จากการตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินดังกล่าวอยู่ครบ ไม่มีสูญหายหรือเสื่อมค่าแต่อย่างใด จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียนร้อย

ผู้เสียหายได้กล่าวขอบคุณ ชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ที่ร่วมกันติดตามทรัพย์สินกลับคืนมาได้ และได้มอบสิ่งของเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ปทุม 2-1 ปทุม 2-0
พร้อมกำลัง ว.4 เดินเท้าป้องกันเหตุ BTS สยาม

10 พฤศจิกายน 2567

สืบปทุมวันร่วมกับสืบดอนเมืองติดตามรถหาย

วัน/เดือน/ปี ที่ตรวจยึด 28 ตุลาคม 2567 เวลา 23.55 น.

ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ติดตามรถ จยย. หายฯ (ได้คืน)

ภายใต้การอำนวยการของ

พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน

พ.ต.ท.ศตวรรธน์ เกียรติสกุลทอง รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน

พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.สน.ปทุมวัน

พ.ต.ต.พิมาล ไพรวิจารณ์ สว.สส.ปทุมวัน

ได้ทำการตรวจยึด 1. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 ไอ สีแดงเทา ปี 2022 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ที่ผู้เสียหายแจ้งหายไว้เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2567 เวลาประมาณ 01.00 น. บริเวณ ฟุตบาท ข้างห้าง MBK ตามรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี สน.ปทุมวัน ลำดับที่ 1 ลงวันที่ 28 ต.ค. 2567 เวลา 01.30 น.

สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนสรงประภา แขงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ ก่อนการตรวจยึด เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายฯ ได้มาพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน แจ้งความร้องทุกข์ ลำดับที่ 1 ลงวันที่ 28 ต.ค. 2567 เวลา 01.30 น. แจ้งว่าตนได้จอดรถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีแดงเทา ป้ายทะเบียน 6ขจ 8262 กทม. ไว้บริเวณ ฟุตบาทซอย จุฬาฯ12 ข้างห้างฯ MBK แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. ต่อมาเวลาประมาณ 01.00 ของวันที่ 28 ก.ย. 2567 ไม่พบ รถ จยย.ของตน(ได้หายไป) ได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สน.ทุมวัน ได้รับแจ้งจึงเร่งลงพื้นที่เกิดเหตุ และติดตามไล่กล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ จนพบผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุและติดตามจนไปถึงบริเวณที่ตรวจยึด และได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมทั้งประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวน สน.ดอนเมือง ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบ ต่อมาพบ รถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 ไอ สีแดงเทา ปี 2022 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ลักษณะใกล้เคียงกับ รถ จยย.ที่ ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ จอดอยู่บริเวณ ริมถนนสรงประภา แขงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ลักษณะต้องสงสัยสายไฟพะลุงพะลัง จึงเข้าไปตรวจสอบบริเวณเครื่องยนต์ ปรากฏว่า เลขเครื่องยนต์ของรถ จยย.คันดังกล่าว ตรงกับ รถ จยย. ที่ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ประกอบกับได้สอบถามประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบปรากกฎว่าไม่ทราบว่าเป็นรถผู้ใด จึงได้ทำการตรวจยึด รถ จยย.คันดังกล่าว และติดต่อผู้เสียหาย ให้มาชี้ยืนยันรถ จยย.คันดังกล่าว ปรากฏว่า ผู้เสียหาย ชี้ยืนยันว่า จยย. คันดังกล่าวคือรถ จยย.ของตนที่หายไป จึงบันทึกตรวจยึดและทำบันทึกชี้ยืนยัน นำส่งพนักงาน สอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีต่อไป อนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวน สน.ปทุมวัน จะติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวันพร้อมกำลังฯ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับเกี่ยวกับยาเสพติด

วัน/เดือน/ปี ที่จับกุม 26 ต.ค. 2567 เวลา 13.30 น.

ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน

—————————————

ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน, พ.ต.ท.ศตวรรธน์ เกียรติสกุลทอง รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน, พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.ฯ, พ.ต.ต.พิมาล ไพรวิจารณ์ สว.สส.ฯ

ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน นำโดย ร.ต.ท.วีระเดช อาศัยป่า รอง สว.สส.สน.ปทุมวัน พร้อมกำลังฯ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “จับตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ 158/2567 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ในข้อหา สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน”

สภ.ดอนหว่านรับตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอนหว่าน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ติดตามทรัพย์สินส่งคืนผู้เสียหาย จำนวน 2 ราย

ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน

ติดตามทรัพย์สินส่งคืนผู้เสียหาย จำนวน 2 ราย

1. ผู้เสียหาย : นายวิทยา ปรางค์ทอง โทรศัพท์ 0908852280

ลง ปจว. ลำดับที่ 6 ลงวันที่ 23 ต.ค.67 เวลา 10.38 น .

ทรัพย์สิน : กระเป๋าสตางค์สีน้ำตาลจำนวน 1 ใบ ภายในมีทรัพย์สินประกอบด้วย

-เงินสดประมาณ 7,000 บาท

-บัตรประจำประชาชน

-ใบอนุญาตขับขี่รถ , บัตร AMT ฯ

2. ผู้เสียหาย : MR.FARHAD HASSANI สัญชาติ แคนนาดา เลขที่หนังสือเดินทาง P86650QS

ลง ปจว. ลำดับที่ 12 ลงวันที่ 23 ต.ค.67 เวลา 13.05 น .

ทรัพย์สิน : โทรศัพท์มือถือ I PHONE 15 ProMax สีเทา จำนวน 1 เครื่อง

วันนี้ (23 ต.ค.67) เมื่อได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและโดยรอบ พร้อมกับลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง จนพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่เก็บทรัพย์สินของผู้เสียหายไป จึงได้ประสานให้นำทรัพย์สินดังกล่าว นำมาส่งคืนแก่เจ้าของที่แท้จริง โดยให้นัดส่งมอบกันที่ สน.ปทุมวัน และได้ให้ลง ปจว.ไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อย

สืบปทุมวัน รวบสองผัวเมียแสบร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

วัน/เดือน/ปี ที่จับกุม : 20 ตุลาคม 2567 เวลา 10.45 น.

ไม่รอด!! สืบปทุมวัน รวบสองผัวเมียแสบ

————————————————————-

สน.ปทุมวัน

ภายใต้การอำนวยการของ

พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน

พ.ต.ท.ศตวรรธน์ เกียรติสกุลทอง รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน

พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.สน.ปทุมวัน

พ.ต.ต.พิมาล ไพรวิจารณ์ สว.สส.สน.ปทุมวัน

สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ

ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.606/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2567”

ผู้ต้องหาที่ 2 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.603/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2567”

สถานที่จับกุม : บริเวณหน้าห้องเลขที่ 19 โรงแรมศรีหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร

นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ลงพื้นที่ตรวจสอบสามารถติดตามทรัพย์สินส่งคืนให้แก่เจ้าของได้

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.67 เวลาประมาณ 08.00 น

ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน

—————————————

ขณะผู้แจ้งมาทำธุระส่วนตัวที่ รพ.จุฬาฯ ได้ลืมกระเป๋าซึ่งภายในมีทรัพย์สินเป็น iPad pro 11 และ Air Pods ไว้ที่เก้าอี้นั่งพักคอย ของตึกจักรีทศมฯ เมื่อนึกขึ้นได้ ผู้แจ้งได้กลับไปยังจุดที่วางกระเป๋าไว้ ปรากฏว่า ไม่พบทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์

สน.ปทุมวัน

ภายใต้การอำนวยการของ

พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน

พ.ต.ท.ศตวรรธน์ เกียรติสกุลทอง รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน

พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.สน.ปทุมวัน

พ.ต.ต.พิมาล ไพรวิจารณ์ สว.สส.สน.ปทุมวัน

ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ลงพื้นที่ตรวจสอบ

– นำโดย ร.ต.อ.อมร โนนมะหิง รอง สว.สส.ฯ จากการตรวจสอบและลงพื้นที่ติดตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวันสามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวฯ ส่งคืนให้แก่เจ้าของได้

iPad pro 11 ราคาประมาณ 40,000 บาท

Air Pods ราคาประมาณ 4,000 บาท

—————————————