ผู้เขียน: sornram
หยุดให้คนข้าม=หยุดการสูญเสีย
หยุดให้คนข้าม=หยุดการสูญเสีย

ตร.สืบปทุมวัน จับผู้ต้องหา ข้อหา “จำหน่ายยาเสพติด”
วัน/เดือน/ปี ที่จับกุม 26 มกราคม 2568 เวลา 19.40 น.
ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน![]()
ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน,พ.ต.ท.ศตวรรธน์ เกียรติสกุลทอง รองผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.ฯ, พ.ต.ต.พิมาล ไพรวิจารณ์ สว.สส.ฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน จับกุมผู้ต้องหา
ได้จับกุม 1.นายเชาวลิตร์ ใจสุทธิ อายุ 42 ปี
ข้อหา
“จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์)โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”
พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมฟาตามีนหรือยาไอซ์) ลักษณะเป็นเกล็ด สีขาวขุ่น บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกแบบเปิดปิด น้ำหนักรวมถุง 1.1 กรัม ได้มาจากการล่อซื้อยาเสพติด
2.เงินที่ใช้ในการล่อซื้อ ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และธนบัตรฉบับรัฐบาลไทย 100 บาท จำนวน 3 ฉบับ รวมจำนวน 800 บาท ตรวจค้นได้จากภายในกระเป๋าผ้าสีดำ ผู้ถูกจับถืออยู่ในมือข้างขวาในขณะทำการตรวจค้น(ส่งเฉพาะสำเนาธนบัตร ฉบับจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเก็บรักษาไว้)
3.ประจำวันที่ลงเพื่อการล่อซื้อ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ข้อ 1 ลงวันที่ 26 มกราคม 2567 เวลา 19.25 น. พร้อมสำเนาธนบัตรธนบัตรรัฐบาลไทยฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และธนบัตรฉบับรัฐบาลไทย 100 บาท จำนวน 3 ฉบับ
4.กระเป๋าผ้าสีดำ ซึ่งผู้ถูกจับถืออยู่ในมือข้างขวาขณะจับกุม
สถานที่จับกุม บริเวณข้างคลองผดุงกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.
พฤติการณ์
ก่อนจับกุมได้รับแจ้งสายลับ (ขอปกปิดนาม) ว่านายเอก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) รูปร่างผอม ผิวดำ-แดง มีรอยสักบริเวณแขนและขาทั้ง 2 ข้าง สูงประมาณ 160 เซนติเมตร มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติด อยู่แถวริมคลองผดุงกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ จึงได้เดินทางมาพบ ร.ต.ท.วีระเดช อาศัยป่า รอง สว.(สส.)สน.ปทุมวันฯ แจ้งว่าตนเองสามารถล่อซื้อยาเสพติดประเภทยาไอซ์ได้ จึงได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อวางแผนเข้าทำการจับกุมโดยการล่อซื้อ จากนั้นจึงได้นำธนบัตรฉบับรัฐบาลไทย ฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และธนบัตรฉบับรัฐบาลไทย 100 บาท จำนวน 3 ฉบับ รวมจำนวน 800 บาท มาลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ตามบันทึกประจำวัน ข้อที่ 1 เวลา 19.25 น. วันที่ 26 มกราคม 2569 เพื่อนำไปใช้ในการล่อซื้อยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง ในราคา 800 บาทโดยให้ สายลับ(ขอปกปิดนาม) ไปทำการซื้อขายบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดย ร.ต.ท.วีระเดชฯได้ดำเนินการตรวจค้นตัวของสายลับ(ขอปกปิดนาม)ก่อนแล้ว ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด ร.ต.ท.วีระเดชฯ จึงมอบ ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 100 บาท จำนวน 3 ฉบับ ซึ่งได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้วนั้น ให้กับสายลับ(ขอปกปิดนาม) ไปทำการล่อซื้อ ซึ่ง ร.ต.ท.วีระเดชฯ ได้แจ้งแก่สายลับ(ขอปกปิดนาม) ว่าหากทำการซื้อขายยาเสพติดเสร็จสิ้นแล้ว ให้สายลับ(ขอปกปิดนาม)ออกมาพร้อมยาเสพติด คือ ยาไอซ์ ที่ได้ล่อซื้อไว้แล้วมาหา ร.ต.ท.วีระเดชฯ ตามจุดที่ได้นัดหมายบริเวณหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อส่งมอบยาเสพติด คือ ยาไอซ์ ที่ได้ทำการล่อซื้อแก่ ร.ต.ท.วีระเดชฯ เพื่อยึดไว้เป็นของกลางในคดี และเข้าไปทำการจับกุม นายเอกตามแผนการที่ได้วางแผนไว้ จากนั้นเวลาประมาณ 19.30 น. สายลับ(ขอปกปิดนาม) และ ร.ต.ท.วีระเดชฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้เดินทางไปถึงยังบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบ และในที่เกิดเหตุมีแสงไฟส่องสว่าง ในระยะ 30 เมตร สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากนั้นสายลับ(ขอปกปิดนาม)ได้เดินไปซื้อล่อยาเสพติดที่นายเอก บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษมและได้ทำการส่งสัญญาณให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่าได้ทำการล่อซื้อยาเสพติดเสร็จสิ้นแล้ว โดยยาเสพติดที่ได้ทำการล่อซื้อมี ยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง ซึ่งล่อซื้อในราคา 800 บาท จากนั้น เวลาประมาณ 19.40 น. ร.ต.ท.วีระเดชฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้เข้าทำการจับกุมตัวบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พบนายเอก ซึ่งมีรูปพรรณตามที่สายลับ(ขอปิดนาม)แจ้ง ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว ร.ต.ท.วีระเดชฯ จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พร้อมทั้งแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้แก่นายเอก ทราบและดู จนเป็นที่พอใจ จากนั้น ร.ต.ท.วีระเดชฯ ได้ขอตรวจค้น โดยก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะทำการค้นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ จนนายเอกเป็นที่พอใจแล้ว จึงทำการตรวจค้น โดยในขณะตรวจค้นมีแสงไฟส่องสว่างมองเห็นอย่างชัดเจน ผลการตรวจค้นพบธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับ 100 บาท จำนวน 3 ฉบับ อยู่ภายในกระเป๋าผ้าสีดำ ซึ่งนายเอกถืออยู่ในมือข้างขวาขณะทำการตรวจค้น จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการขายยาเสพติด “จริง” จากนั้น ร.ต.ท.วีระเดชฯ ได้นำสำเนาภาพถ่ายธนบัตรที่ได้ลงประจำวันไว้มาตรวจสอบต่อหน้าผู้ถูกจับพบว่ามีหมายเลขตรงกับธนบัตรที่ยึดได้จากผู้ถูกจับจริง จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์)โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”จาการการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและให้การว่าตนได้ไปซื้อยาไอซ์ จากนายเฉิน หรือ การัน นามสกุลไม่ชัดเจน อายุประมาณ 28 ปี โดยข้าฯได้ไปซื้อที่ห้องของนายเฉินที่ซอยจรัญ 65 ในราคา 300 บาท แล้วมาจำหน่ายให้แก่ลูกค้า ในราคา 800 บาท พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมาย ให้ นายเชาวลิตร์ หรือเอก ใจสุทธิ(ทราบชื่อสกุลจริงภายหลัง) ผู้ถูกจับกุม ทราบและเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อไป
ผู้ถูกจับได้รับทราบข้อกล่าวหาพร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายครบถ้วนแล้ว
บันทึกมาตรา 22 และ 23 ลงในระบบออนไลน์เรียบร้อย





ลงตรวจเยี่ยมชุมชนพร้อมเจ้าหน้าที่ของศูนย์บริการสาธารณสุข 5 จุฬาฯและประธานชุมชนตรอกสลักหิน
วันนี้ 24 ม.ค.67 เวลา 08.30 น.
โดยอำนวยการของ
พ.ต.อ.ศิริชาติ จันทร์พรมมา ผกก.สน.ปทุมวัน
พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย อยู่รักษ์ รอง ผกก.ป.สน.ปทุมวัน)
มอบหมายให้
พ.ต.ต.จุมภฎ หอมหวาน สวป.(ชส)สน.ปทุมวัน,
พร้อมชุด ตขส.ฯ สน.ปทุมวัน
ลงตรวจเยี่ยมชุมชนพร้อมเจ้าหน้าที่ของศูนย์บริการสาธารณสุข 5 จุฬาฯและประธานชุมชนตรอกสลักหินพร้อมคณะกรรมการชุมชน เป็นผู้นำในการพบปะชุมชนรับฟังข้อปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาให้แกชุมชนและได้ให้การช่วยเหลือนำผู้ป่วยที่อาการทางจิตเวชไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้านสมเด็จฯ
เป็นการปฏิบัติงานเพื่อแสวงหาความร่วมมือในงานชุมชนและมวลชนสัมพันธ์
























