ผู้เขียน: sornram

สร้างรอยยิ้ม สร้างมิตรภาพ สร้างความห่วงใย สร้างความอุ่นใจ #SAYHIPATHUMWAN
1 มีนาคม 2568
พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน
พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย อยู่รักษ์ รอง ผกก.ป.สน.ปทุมวัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม เดินเท้าดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ภายในเขต ศูนย์การค้า/ถนนบรรทัดทอง/พิพิธภัณฑ์ แหล่งท่องเที่ยว
ประชาสัมพันธ์ให้ระวังความปลอดภัยจากการใช้ถนนและป้องกันทรัพย์สินตนเอง สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน เบอร์โทร 022152993 หรือ 191 ได้ตลอดเวลา















ร่วมประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร(ศอ.ปส.กทม.)ครั้งที่2/2568
วันนี้(25 ก.พ. 68) เวลา 13.30 น.
ภายใต้การอำนวยการ
พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน
พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย อยู่รักษ์ รอง ผกก.ป.สน.ปทุมวัน
มอบหมายให้
พ.ต.ต.จุมภฎ หอมหวาน สวป.(ชส.)สน.ปทุมวัน
ร่วมประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร(ศอ.ปส.กทม.)
ครั้งที่2/2568
ณ สำนักงานเขตปทุมวัน






ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน รวบ 2 ผัว-เมีย ร่วมกันค้ายาเสพติด
วัน/เดือน/ปี ที่จับกุม 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 12:00 น.
ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ![]()
ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน,พ.ต.ท.ศตวรรธน์ เกียรติสกุลทอง รอง ผกก.สส.ฯ,พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.ฯ,พ.ต.ต.พิมาล ไพรวิจารณ์ สว.สส.ฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน จับกุมผู้ต้องหา
ได้จับกุม 1. นาย ทนนชัย หรือ นนท์ แสงสุระ อายุ 35 ปี สัญชาติ ไทย ผู้ต้องหาที่ 1
2. น.ส. ประทุมพร หรือ ปุ๋ย มัชฌิมา อายุ 33 ปี สัญชาติ ไทย ผู้ต้องหาที่ 2
ข้อหา
ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและยาไอซ์)โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
2.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
3.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
4.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
5.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
6.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
7.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
8.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น 9.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
10.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
11.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
12.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
13.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
14.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น 15.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
16.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น 17.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 10 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
18.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 6 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น 19.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ด ลักษณะกลม เล็กแบน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY บนเม็ดยาด้านหนึ่ง สีล้ม จำนวน 3 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
20.มียาเสพติดให้โทษประเภทที่1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวขุ่น โดยบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกแบบเปิดปิด จำนวน 1 ถุง น้ำหนักรวมถุง 0.29 กรัม ถูกตรวจพบอยู่ในกระเป๋าเงินสีแดง ซึ่งซุกซ่อนอยู่กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทาที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองขณะตรวจค้น
21.มียาเสพติดให้โทษประเภทที่1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวขุ่น โดยบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกแบบเปิดปิด จำนวน 3 ถุง (ถุงที่ 1 น้ำหนักรวมถุง 0.45 กรัม , ถุงที่ 2 น้ำหนักรวมถุง 0.85 กรัม ,ถุงที่ 3 น้ำหนักรวมถุง 0.82 กรัม )น้ำหนักยาไอซ์รวมถุงประมาณ 2.12 กรัม ถูกตรวจพบบริเวณชั้นวางเสื้อผ้า ซึ่งอยู่ด้านข้างของผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 กำลังนั่งอยู่
รวมของกลางยาบ้าทั้งหมด จำนวน 179 เม็ด
รวมน้ำหนักยาไอซ์ทั้งหมด จำนวน 2.41 กรัม
22.ถุงพลาสติกใสแบบเปิด-ปิด จำนวน 96 ถุง
23.เครื่องชั่งดิจิตอล สีเทา จำนวน 1 เครื่อง
24.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ realme รุ่น Note50 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง พร้อมซิมการ์ดหมายเลข 098-3268013 เครือข่าย AIS ของ นายทนนชัยหรือนนท์ แสงสุระ ผู้ต้องหาที่ 1
25.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ YESTEL รุ่น Y05 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง พร้อมซิมการ์ด 2 หมายเลข ดังนี้
1.หมายเลข092-7754912 เครือข่าย AIS 2.หมายเลข 084-2212125 เครือข่าย TRUE-H ของ น.ส.ประทุมพรหรือปุ๋ย มัชฌิมา ผู้ต้องหาที่ 2
26.กระเป๋าเงินสีแดง จำนวน 1 ใบ
27.กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทา จำนวน 1 ใบ
สถานที่จับกุม ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ภายในชุมชนวัดบรมนิวาส แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.
พฤติการณ์ ก่อนจับกุมได้รับแจ้งสายลับ (ขอปกปิดนาม)และได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่พักอาศัยอยู่ภายในชุมชนวัดบรมนิวาส แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ว่านายนนท์(ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ลักษณะรูปร่างสันทัด มีรอยสักที่ต้นแขนขวาและซ้าย สูงประมาณ 170 ซม. และน.ส.ปุ๋ย(ไม่ทราบชื่อสกุลจริง)ลักษณะรูปร่างสันทัด มีรอยสักที่แขนขวาและซ้าย สูงประมาณ 150 ซม. ซึ่งอยู่ด้วยกันเป็นสามีภรรยา ในห้องเช่าไม่มีเลขที่ภายในชุมชนวัดบรมนิวาส แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดให้กับประชาชนทั่วไปเป็นประจำ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาให้ทราบเพื่อทำการปิดล้อมตรวจค้นห้องเช่าดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเช่าดังกล่าวภายในชุมชนวัดบรมนิวาส โดยได้แอบซุ่มสังเกตพบมีวัยรุ่นเข้า-ออกจำนวนหลายคนและมีอาการพิรุธน่าสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาแล้วน่าเชื่อว่าน่าจะมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ หากเนิ่นช้าไปอาจถูกทำลาย ซ่อนเร้น ทำให้สูญหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันเข้าไปในห้องเช่าดังกล่าวและได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจโดย ร.ต.ท.วีระเดช อาศัยป่า ได้แสดงบัตรเจ้าพนักงานปปส. ให้ทราบแล้ว ประกอบกับขณะนั้นประตูห้องดังกล่าวได้เปิดอยู่ และได้แจ้งพฤติการณ์รวมทั้งวัตถุประสงค์ในการขอทำการตรวจค้น โดยก่อนทำการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ถูกจับดูจนเป็นที่พอใจ จึงทำการตรวจค้น แต่เนื่องจาก น.ส.ประทุมพรหรือปุ๋ย มัชฌิมา เป็นผู้หญิง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงให้ น.ส.ประทุมพรหรือปุ๋ยฯ ตรวจค้นตัวเองโดยให้แสดงสิ่งของที่อยู่ภายในกระเป๋ากางเกงขายาวที่สวมใส่อยู่ จากนั้นจึงทำการตรวจค้นนายทนนชัยหรือนนท์ แสงสุระ หลังจากนั้นจึงให้ทั้ง 2 คน นำตรวจค้นภายในห้องพัก ผลการตรวจค้นพบยาบ้าของกลางรายการที่ 1-20 ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง สีเทา วางอยู่ตรงหน้าผู้ต้องหาทั้งสอง ในห้องที่เกิดเหตุขณะตรวจค้น-จับกุม และพบของกลางรายการที่ 21-23 ซุกซ่อนอยู่บริเวณชั้นวางของภายในห้องพัก ดังกล่าวสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่ายาบ้าจำนวน 179 เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 4 ถุง (น้ำหนักรวมประมาณ 2.41 กรัม)เป็นของตนจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและยาไอซ์)โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมาย ให้ นายทนนชัยทราบ

ขับเคลื่อน โครงการโรงเรียนสีขาว ซึ่งเป็น 1 ใน 16 โครงการสำคัญเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
วันศุกร์ที่ 21 ก.พ. 2568ตั้งแต่เวลา 12.30 น.
“ โครงการโรงเรียนสีขาว ตรวจปัสสาวะ 100% ”
ตามข้อสั่งการของ
พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น.ปส. (1-3)
ขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนสีขาว ซึ่งเป็น 1 ใน 16 โครงการสำคัญเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
ภายใต้การอำนวยการของ
พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน
พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย อยู่รักษ์ รอง ผกก.ป.สน.ปทุมวัน
พ.ต.ท.ศตวรรธน์ เกียรติสกุลทอง รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน
มอบหมายให้
พ.ต.ต.จุมภฎ หอมหวาน สวป.(ชส)สน.ปทุมวัน,
เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
เจ้าหน้าที่ ตชส.
ร่วมกับโรงเรียนวัดชัยมงคล
นำโดย นายปิยะณัฐ จริงจิตร รองผู้อำนวยการสถานศึกษาฯ
คณะครูโรงเรียนวัดชัยมงคล
ร.ต.ท.สุทธิศักดิ์ มณเฑียรทอง ที่ ปรึกษา กต.ตร.สน.ปทุมวัน
ให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับยาเสพติดและภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า
และดำเนินการตรวจปัสสาวะ เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน คณะครู และนักเรียน ชั้น ม.1- ม.3
ตามโครงการโรงเรียนสีขาวตรวจปัสสาวะ 100 %
ผลการตรวจปัสสาวะจำนวน 75 ราย
– ไม่พบสารเสพติด
โครงการ 1 ตำรวจ 1 โรงเรียน บรรยายให้ความรู้และการหลีกเลี่ยงตนเองจากพิษภัยยาเสพติด
ณ โรงเรียนวัดชัยมงคล แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.



กิจกรรมจิตอาสาเฉพาะกิจประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 หน่วยรับผิดชอบสน.ปทุมวันบก.น.6

กำลังพลที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 20 นาย
สถานที่ทำกิจกรรม : วัดปทุมวนารามแขวงปทุมวันเขตปทุมวันกทม.
กิจกรรมตามโครงการจิตอาสา
รายละเอียดกิจกรรมวันที่ 21 ก.พ.68 เวลา 10.00 น.
🔹พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน
🔹พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย อยู่รักษ์ รอง ผกก.ป.สน.ปทุมวัน
🔹พ.ต.ต.ศราวุฒิ เจริญยศ สว.อก.สน.ปทุมวัน
🔹 พ.ต.ต.จุมภฏ หอมหวาน สว.(ชส.)สน.ปทุมวัน
พร้อมด้วย
เจ้าหน้าที่จิตอาสา สน.ปทุมวัน จัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เช็ด ล้าง ทำความสะอาด ขัด ถูพื้น จัดเก็บขยะ บริเวณโดยรอบพระอุโบสถ และการจัดเก็บขยะ กำจัดวัชพืช ตัดแต่งกิ่งไม้ บริเวณโดยรอบสระน้ำ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน







จับแล้ว 2 ผัวเมียแสบ ร่วมกันขโมยรถ จยย. ในโรงพยาบาล
วัน/เดือน/ปี ที่จับกุม 17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 15.05 น.
ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน![]()
ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง รอง ผบก.น.6 รรท. ผกก.สน.ปทุมวัน,พ.ต.ท.ศตวรรธน์ เกียรติสกุลทอง รอง ผกก.สส.ฯ,พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.ฯ,พ.ต.ต.พิมาล ไพรวิจารณ์ สว.สส.ฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน จับกุมผู้ต้องหา
ได้จับกุม 1.นายทรงเกียรติ นักธรรม อายุ 31 ปี
2.น.ส.วาสนา นางาม อายุ 30 ปี
ข้อหา
“ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมฯ”
พร้อมด้วยของกลาง
1.รถจักยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า R 15 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 5กก-7198 กทม.(รถของผู้เสียหาย)
2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า GT 125 สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน 1กต-5153 ยโสธร (ใช้ในการก่อเหตุและหลบหนี)
3.เสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ(15 ก.พ.68)ของ น.ส.วาสนา นางาม ประกอบด้วย 1.เสื้อแขนสั้นพิมพ์ลายสีชมพู 2.กางเกงขาสั้นสีโอรส 3.รองเท้าแตะสีขาว
4.เสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ(15 ก.พ.68)ของ นายทรงเกียรติ นักธรรม ประกอบด้วย 1.เสื้อคอปกแขนยาวสีดำ 2.กางเกงขายาวสีดำ 3.รองเท้าหุ้มส้นสีน้ำตาล 4.นาฬิกาข้อมือสีดำ
5.โทรศัพท์ ยี่ห้อ OPPO A18 สีดำ หมายเลขอีมี่ 867003069484190 พร้อมกับซิมการ์ดหมายเลข 095-5859916 เครือข่าย AIS ของ น.ส.วาสนา นางาม ที่ใช้ในการติดต่อซื้อขายรถจักรยานยนต์(ของกลางรายการที่ 1)กับ น.ส.ศริญญา บุดสีดี
6.โทรศัพท์ ยี่ห้อ Xiaomi A1 สีดำ หมายเลขอีมี่ 867559032317262 พร้อมกับซิมการ์ดหมายเลข 069-7718824 เครือข่าย TRUE-H
สถานที่จับกุม ภายในกลางซอยซอยพระราม 6 ซอย 13 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯต่อเนื่องกลางซอยยศเส แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ เนื่องด้วยวันที่ 15 ก.พ. 2568 เวลา 10.43 น. ตาม ปจว.ข้อที่ 4 นายขวัญชัย สายสอน (1350400080741) อายุ 35 ปี(ผู้เสียหาย)ได้มาพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวันแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 15.45 น. ของวันที่ 14 ก.พ. 2568 ตนได้ขับขี่จักยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า R 15 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 5กก-7198 กทม. ไปจอดไว้ที่บริเวณหน้าตึก สธ. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ต่อมาวันที่ 15 ก.พ. 2568 เวลาประมาณ 09.00 น. ผู้แจ้งได้กลับมาที่รถจักยานยนต์ พบว่ารถจักรยานยนต์ของตนได้หายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พบบุคคลต้องสงสัยจำนวน 2 คน เป็นชายและหญิง ซึ่งชายไทย มีรูปร่างสันทัด สูงประมาณ 170-175 ซม. ใส่หน้ากากอนามัยสีขาว สวมเสื้อคอปกแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สวมนาฬิกาข้อมือสีดำที่แขนซ้าย สวมรองเท้าหุ้มส้นสีน้ำตาล มาพร้อมกับหญิงไทย รูปร่างอ้วน สูงประมาณ 150 ซม. ใส่หน้ากากอนามัยสีดำ สวมเสื้อแขนพิมพ์ลายสั้นสีชมพู สวมกางเกงขาสั้นสีโอรส สวมรองเท้าแตะสีขาว ได้เข้ามาที่จุดเกิดเหตุบริเวณหน้าตึก สธ. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ต่อมาเวลาประมาณ 04.12 น. ชายหญิงทั้ง 2 คน ได้ช่วยกันยันรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายออกไป โดยผู้ชายจะเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า GT 125 สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน 1กต-5153 ยโสธร และผู้หญิงจะเป็นคนขับขี่จักรยานยนต์ของผู้เสียหายออกไปจากบริเวณจุดที่ผู้เสียหายได้จอกรถไว้ จากการสืบสวนและติดตามอย่างต่อเนื่องพบว่า ชายและหญิงที่ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ได้นำจักรยานยนต์ที่ลักมาได้มาจอดไว้ในซอยพระราม 6 ซอย 10 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
วันนี้(17 ก.พ. 2568) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวันซึ่งได้ทำการสืบสวนติดตามมาอย่างต่อเนื่อง พบนายทรงเกียรติ นักธรรม(ทราบชื่อสกุลภายหลัง) กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า R 15 สีน้ำเงิน ออกจากซอยพระราม 6 ซอย 10 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ไปที่ซอยพระราม 6 ซอย 13 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงติดตามไป พบนายทรงเกียรติ นักธรรม(ทราบชื่อสกุลภายหลัง) บริเวณกลางซอย กำลังทำการเจรจาซื้อขายรถจักรยานยนต์อยู่กับ น.ส.ศริญญา บุดสีดีและน.ส.เพริดพริ้ง ผิวจันทร์(ผู้มารับส่งมอบเงินและรถจักรยานยนต์) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตนและแสดงบัตรเพื่อขอตรวจสอบจักรยานยนต์คันดังกล่าว ก่อนการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ จนนายทรงเกียรติฯเป็นที่พอใจ จากการตรวจสอบพบว่าจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นจักรยานยนต์คันเดียวกับที่นายขวัญชัยฯ(ผู้เสียหาย) ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2568 ซึ่งจากการสืบสวนมีพยานหลักฐานเพียงพอเชื่อได้ว่า นายทรงเกียรติฯ คือบุคคลที่ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า R 15 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 5กก-7198 “จริง” เมื่อมีเหตุที่จะออกหมายจับบุคคลนั้น แต่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับบุคคลนั้นได้ หากไม่ทำการจับกุมในทันทีเชื่อได้ว่า นายทรงเกียรติฯ น่าจะทำการหลบหนี และจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาและแจ้งข้อกล่าวหาและพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือนำพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกำหมายให้ทราบ จาการสอบถามนายทรงเกียรติฯรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุ “จริง” และให้การรับด้วยความสมัครใจและได้พาชี้ยืนยันตัว น.ส.วาสนา นางาม(ผู้หญิงที่พบในภาพที่ได้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ)เป็นผู้ช่วยในการนำรถจักรยานยนต์ออกจากที่เกิดเหตุ ที่กลางซอยยศเส แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อไปถึงพบ น.ส.วาสนา นางาม กำลังเดินอยู่บริเวณกลางซอยยศเส เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาและพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือนำพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ จากการสอบถาม น.ส.วาสนาฯ ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุร่วมกับนายทรงเกียรติฯในการลักรถจักรยานยนต์ที่บริเวณหน้าตึก สธ. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ “จริง” เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหามาเพื่อจัดทำบันทึกจับกุม และ นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีต่อไป






